วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

Update/กูรู คาดหุ้นไทยพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวน์ แนะหาจังหวะเลือกซื้อหุ้นเข้าพอร์ต

กูรูคาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวน์ หลังวันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงตามตลาด
หุ้นในภูมิภาค แนะจับตาตัวเลข ศก.ที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้-ทิศทางตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
กลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะยาว หาจังหวะเลือกซื้อหุ้นเข้าพอร์ต โดยเฉพาะกลุ่ม
แบงก์ พลังงาน ปิโตรเคมี และค้าปลีกค้าส่ง ส่วนระยะสั้นแนะเก็งกำไรรายตัว โดยมีแนวต้าน
965 จุด แนวรับ 954 จุด

วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 959.27 จุด ลดลง 3.20 จุด หรือ 0.33%
มีมูลค่าการซื้อขาย 41,873.09 ลบ.
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
1.TRUE ปิดที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.57 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,761.32ลบ.
2.BANPU ปิดที่ 704.00 บาทลดลง 4.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,052.24 ลบ.
3.TMB ปิดที่ 2.48 บาท ลดลง 0.08 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,600.42ลบ.
4.ITD ปิดที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,487.37 ลบ.
5.PTTEP ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,472.12ลบ.
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,656.57 ล้านบาท นักลง
ทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,097.59 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,642.64
ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,111.52 ล้านบาท

นายวรุฒน์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ภาวะ
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย จากการที่ตลาดหุ้นใน
วอลล์สตรีทปรับตัวลดลง ตลาดหุ้นในภูมิภาคจึงมีแรงเทขายออกมาไปในทิศทางเดียวกัน โดยใน
ส่วนของตลาดหุ้นไทยก็มีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มขนส่ง กลุ่ม
อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มพลังงาน โดยปรับลดลง 2% 1.3% และ 1% ตามลำดับ โดยระหว่างวัน
ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 965 จุด ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะปรับตัวลงมาอยู่ในแดนลบ
สำหรับความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นในภูมิภาคสำคัญปรับตัวลดลง อาทิดัชนี ฮั่งเส็ง
ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 22,109.95 จุด ลดลง 230.89 จุด หรือ -1.03% ส่วนดัชนี
สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 3,097.35 จุด ลดลง 16.11 จุด หรือ -0.52%
ขณะที่ดัชนี SHI ตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดที่ระดับ 2,611.35 จุด ลดลง 16.61 จุด หรือ -0.63%
และดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 9,495.76 จุด ลดลง 107.38 จุด หรือ -
1.12%
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ ดัชนีฯ อาจจะรีบาวน์กลับมาอยู่ในแดนบวก
ได้ ขณะเดียวกันมีปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศ ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการ
ทยอยประกาศตัวเลขออกมาค่อนข้างมาก เช่นตัวเลขนำเข้า ส่งออก ดัชนีอุตสาหกรรมการผลิต
ภาคการบริการ ดังนั้นจึงต้องติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ เหล่านี้ ประกอบกับราคาหุ้นใน
ช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากจึงถือเป็นสัปดาห์แห่งการขายทำกำไร
ในขณะที่ในวันพรุ่งนี้ต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์หน้าเป็นวันหยุดทำการของจีน เนื่องจาก
เทศกาลวันชาติ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียมีการขายทำกำไรออกมา รวมไปถึงจะต้อง
จับตาตลาดหุ้นวอลล์สตรีทด้วยว่าจะมีการชี้นำตลาดหุ้นไปในทิศทางใด
สำหรับปัจจัยในประเทศยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวของการเมือง แต่ความชัดเจน
น่าจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีการตัดสินกรณีของพรรคประชาธิปัตย์
กลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะยาว น่าจะเป็นจังหวะที่เลือกซื้อหุ้นเข้ามา
เก็บในพอร์ต โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ พลังงาน ปิโตรเคมี และค้าปลีกค้าส่ง สำหรับกลุ่มแบงก์
บริษัทฯชอบ SCB ราคาเป้าหมาย 125 ในอีก 2 เดือนข้างหน้า ส่วน BANPU ราคาเป้าหมาย
780 บาท (ไม่รวมเหมืองที่ซื้อเข้ามาเพิ่ม) สำหรับนักลงทุนที่ชอบเก็งกำไรอาจจะเลือกเล่นตัวที่
ถูกใจ อาจจะเข้าซื้อหุ้นตัวที่ถูกใจเพื่อเก็บไว้รอเก็งกำไร โดยมีแนวต้าน 965 จุด แนวรับ 954 จุด



รายงาน โดย ชัชชญา อังคุลี
เรียบเรียง โดย พรทิพย์ พลสิทธิ์
อนุมัติ โดย ดวงสุรีย์ วายุบุตร์
อีเมล์แสดงความคิดเห็น commentnews@efinancethai.com




ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 28/09/10 เวลา 18:01:49

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น